ต่อภาคสอง บทเกริ่นนำ สำหรับการอบรมเสาร์นี้ ครับ
สมัยก่อน ความเครียดอยู่กับเราไม่นาน
เวลาที่เราพบกับสัตว์ร้าย ร่างกายเร่งระบบการทำงาน
เพื่อเอาตัวรอด
หากสู้ชนะก็รอด ไม่ชนะแต่หนีทันก็รอด
หากถ้าสู้ไม่ได้และหนีไม่ทันก็ตาย
วิถีชีวิตปัจจุบัน เราไม่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายที่เป็นอันตราย
แต่เราต้องเผชิญกับข้อมูลข่าวสารจำนวนมากมาย
ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวร้ายที่สร้างความตระหนก
สมองถูกท่วมด้วยข้อมูลจำนวนมากอยู่ตลอดเวลา
ความเครียดเกิดขึ้นจากเหตุที่ต่างไปจากเดิม
เราเครียดกับรถติด กำหนดการส่งงาน หนี้สิน ตกงาน
การทะเลาะเบาะแว้ง โรคมะเร็ง
และอื่นๆ อีกมากมาย
เป็นความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา
พลังงานที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสู้หรือหนี
กลับส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ
เหมือนกับเครื่องยนต์ที่ถูกเร่งเครื่องอยู่ตลอดเวลา
จนเกิดการสึกหรอ
สภาพเช่นนี้ ทำให้คนเราเกิดความเครียดเรื้อรังที่ส่งผลเสีย
ต่อชีวิตในด้านต่างๆ
ความเครียดเรื้อรังส่งผลเสียต่อร่างกาย จิตใจ ความสัมพันธ์ ความสามารถในการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ ทำลายเซลสมอง ลดความสามารถในการเรียนรู้ ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน
อวัยวะภายในต่างๆ ทำงานเกินจนเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
ทำให้เราเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ
นี่เป็นสาเหตุสำคัญของความวิตกกังวลและนิสัยการมองแง่ร้าย
ที่คอยแต่คิดคาดการณ์ถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
เพียงแต่วิถีชีวิตในยุคปัจจุบัน อันตรายที่เรากังวลใจว่าจะเกิดขึ้น มักจะไม่ค่อยมีโอกาสเกิดขึ้นจริง
นอกจากสมองจะมีแนวโน้มคิดคาดการณ์ล่วงหน้าถึงภัยอันตรายแล้ว ยังให้ความสนใจกับความต้องการการยอมรับและเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ในอดีต ใครก็ตามที่ถูกให้ออกจากกลุ่มจะมีโอกาสอยู่รอดได้ยากโดยลำพัง
ความต้องการการยอมรับ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
ทำให้คนมีนิสัยคิดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
เป็นวิธีการเพื่อคอยประเมินตัวเอง ว่าตัวเองยังเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอยู่หรือไม่ ดีพอหรือไม่ ต่างกันตรงที่ว่า สมัยก่อน เราเปรียบเทียบกับคนไม่กี่คนในชุมชนละแวกบ้าน แต่ในปัจจุบัน เราเปรียบเทียบกับคนจากทั่วโลก ในทุกวัน เราจะได้รับข้อมูลและเรื่องราวของคนเก่งกว่า หล่อกว่า สวยกว่า รวยกว่ามากมาย เป็นการลดทอนความพอใจในตัวเองและชีวิตของตน และก่อให้เกิดความเครียดได้อีกทางหนึ่ง
รู้อย่างนี้แล้ว คุณพอจะเห็นแนวทางไหมครับ ว่าจะจัดการอย่างไร ให้ชีวิตตนเองมีความสุขและประสบความสำเร็จได้
โดยไม่ต้องเสียพลังไปกับความกังวลใจล่วงหน้า
หรือคิดเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ จนลืมความสุขง่ายๆ
ที่อยู่ตรงหน้า
ส่วนภาคปฏิบัติจะทำอย่างไรให้ได้ผล
ก็เป็นเรื่องของการฝึก ที่จะมอบให้กับผู้เข้าอบรมต่อไป
หมายเหตุ ภาคแรก อ่านได้จากโพสต์ก่อนหน้านี้ครับ